วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การเริ่มต้นธุรกิจแอมเวย์

Step1 ในหัวข้อนี้ผมจะบอกคุณว่า การเริ่มต้นที่ถูกต้องในการทำธุรกิจแอมเวย์นั้นทำอย่างไร ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า ในการทำธุรกิจแอมเวย์นั้นผู้ที่ไม่มีความฝันทำไม่ได้นะครับ “ทุกท่านมีความฝันมั้ยครับ” ผมเชื่อว่าทุกๆคนมีความฝัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะฝันไปถึงเมื่อไหร่จริงมั้ยครับ คุณรู้มั้ยครับว่าความฝันกับความจริงมันต่างกันตรงไหน “ความฝันและความจริงต่างกันที่การลงมือทำ” หากว่าเราฝันแต่เราไม่คิดที่จะหาวิธีการที่จะทำตามความฝัน ความฝันนั้นก็จะไม่มีวันเป็นจริง สำหรับการเริ่มต้นในธุรกิจแอมเวย์นั้นไม่ยากเลยครับ ขอแค่เพียงเราเชื่อว่าเราสามารถทำให้ฝันของเราเป็นจริงได้ เราก็สามารถทำธุรกิจแอมเวย์สำเร็จได้เช่นกันครับ การเริ่มต้นธุรกิจแอมเวย์ เราเริ่มต้นง่ายๆจากการทำให้ตัวเราเชื่อก่อน ทีนี้ถามว่าเชื่ออะไรบ้าง อย่างแรกเลยก็คือ “เชื่อมั่นในตัวคุณเองก่อน” วิธีสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเราที่ง่ายที่สุดก็คือ เราต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจแอมเวย์ที่ถูกต้อง เช่น ข้อมูลบริษัท ข้อมูลแผนการตลาด ข้อมูลสินค้าต่างๆ ข้อมูลธุรกิจที่ผิดกฎหมาย หรือที่เรียกกันว่า ธุรกิจจลูกโซ่และกินหัวคิว ซึ่งทั้งหมดนี้ก็อยู่ในคู่มือนักธุรกิจแอมเวย์ที่คุณได้รับจากอัพน์ไลน์ของคุณหลังจากที่คุณสมัครแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่จะสร้างความมั่นใจให้กับคุณได้ดีมากก็คือ การดูตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจจากการฟังเทปหรือ CD ที่มีขายใน Shop Amway หรือมีขายในงานประชุมสำคัญต่างๆ รวมไปถึงหนังสือของคนที่ประสบความสำเร็จเขาเขียนเอาไว้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมั่นใจในธุรกิจแอมเวย์ รวมถึงจะทำให้คุณมั่นใจในตัวเองมากขึ้นอีกด้วย


สำหรับผู้ที่มีความสำคัญที่สุดในการเรียนรู้ของคุณก็คือ “ตัวคุณเอง” ไม่มีใครสามารถบังคับให้คุณไปเรียนรู้ได้นอกจากตัวคุณเอง ถ้าคุณถามผมว่าเมื่อเข้าไปเรียนรู้แล้ว หากติดขัดในเรื่องต่างๆจะไปถามใคร ผมก็จะขอถามคุณกลับว่า คุณมีอัพน์ไลน์ใช่มั้ยครับ? คุณรู้มั้ยครับว่าอัพน์ไลน์หรือผู้เปิดโอกาสทางธุรกิจที่ดีที่สุดนี้ให้กับคุณ เขาจะเป็นเสมือนครูผู้ที่สอนทุกๆอย่าง บอกทุกๆเทคนิค หรือแม้กระทั่งเคล็ดลับความสำเร็จให้กับคุณโดยที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรจากคุณเลย อัพน์ไลน์ของผมสอนผมเสมอว่า ถ้าหากคุณอยากจะสำเร็จให้คุณเรียนรู้จาก 4 อย่างต่อไปนี้


1. อ่านหนังสือ โดยอาจจะเป็นหนังสือของคนสำเร็จ หรือเป็นหนังสืออย่างอื่นที่ช่วยพัฒนาความคิดของเราในการทำธุรกิจก็ได้ การอ่านหนังสือมากๆจะช่วยให้คุณมีแนวคิดที่กว้างยิ่งขึ้นและช่วยให้คุณเรียนรู้ในการเริ่มต้นที่รวดเร็วกว่าคนที่ไม่ได้อ่าน สำหรับหนังสือที่ควรอ่านก่อนคุณสามารถปรึกษาได้จากอัพน์ไลน์ของคุณ


2. ฟังซีดี การฟังซีดีคนสำเร็จเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับนักธุรกิจแอมเวย์ทุกๆคน แม้แต่ผู้ที่เป็นระดับสูงสุดอย่างมงกุฎฑูตเองก็ยังฟังซีดีคนสำเร็จของนักธุรกิจแอมเวย์รายใหม่ๆที่ประสบความสำเร็จ เหตุผลก็คือ แนวคิดของคนสำเร็จทุกคนนั้นมีค่าอย่างมากต่อการพัฒนาตัวเราเอง เวลาที่ฟังซีดีขอให้คุณตั้งใจฟังทุกคำพูดและจำประเด็นที่ว่า “ทำไมเขาจึงเข้ามาทำธุรกิจแมอเวย์ และเขาถูกสปอนเซอร์มาได้อย่างไร” เพื่อที่จะนำมาปรับใช้ในการทำธุรกิจของคุณ


3. เข้าประชุม อย่างที่ผมบอกคุณในช่วงต้นว่า คุณจะได้ทุกอย่างจากที่ประชุมและไม่เคยมีนักธุรกิจแอมเวย์ท่านใดเลยที่สำเร็จได้โดยไม่เข้าประชุม และเมื่อคุณมาเข้าประชุมแล้ว คุณจะได้ยินคำพูดนี้ต่อไปบ่อยๆ “No Meeting No Amway” .ใช่แล้วครับ โนมิตติ้ง โนแอมเวย์ ถ้าคุณไม่เข้าประชุม ไม่เข้าไปเรียนรู้ก็ลืมแอมเวย์ไปได้เลยครับ คุณจะไม่มีโอกาสที่จะสำเร็จในธุรกิจแอมเวย์ได้เลย อย่างไรก็ตามในการเข้าประชุมนั้นหากว่าคุณเตรียมสมุดจดและดินสอยางลบไป ก็จะช่วยคุณในเรื่องของความจำได้มาก อีกทั้งยังสามารถนำความรู้จากที่ประชุมไปถ่ายทอดให้กับดาวน์ไลน์ในองค์กรของคุณได้อีกด้วย


4. ปรึกษาอัพน์ไลน์ “คุณอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจแอมเวย์มั้ยครับ” ถ้าคุณอยากสำเร็จนะครับคุณจะต้องเชื่ออัพน์ไลน์ของคุณ ไม่มีอัพน์ไลน์คนไหนอยากให้ดาวน์ไลน์ของตัวเองล้มเหลวหรอกครับ เขาจะเฝ้าโทรหาคุณ สอนคุณ ให้กำลังใจคุณ และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ว่าง แต่ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ เขาก็จะหาเวลามาเพื่อพบและพูดคุยกับคุณ หลายต่อหลายคนที่เข้ามาในธุรกิจแอมเวย์และเข้าใจผิดคิดว่าที่อัพน์ไลน์ทำดีกับตนเพราะหวังผลประโยชน์ คนเหล่านั้นจึงไม่เชื่ออัพน์ไลน์ของเขา ไม่แม้แต่จะโทรหา คุณเชื่อมั้ยครับว่าคนเหล่านั้นน้อยคนที่จะประสบความสำเร็จ และคนส่วนน้อยที่ประสบความสำเร็จองค์กรก็ไม่เติบโตและล้มเลิกกันไปในที่สุด ถ้าหากว่าคุณกำลังมีความคิดแบบนี้แล้ว “จะดีกว่ามั้ยครับถ้าหากว่าคุณเปลี่ยนความคิดแบบคนล้มเหลวเขาคิดกัน มาเป็นความคิดแบบที่คนสำเร็จเขาคิดกัน” เปลี่ยนจากให้อัพน์ไลน์โทรหาคุณ โทรตามคุณไปเข้าเซนเตอร์ มาเป็นคุณโทรปรึกาแนวคิดธุรกิจกับอัพน์ไลน์ และโทรบอกอัพน์ไลน์ของคุณว่า “คุณอยู่ที่เซนเตอร์แล้ว”




Step 2 หลังจากที่คุณเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจแอมเวย์มาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเรียนรู้จากหนังสือหลากหลายเล่ม จากการฟังซีดีของคนสำเร็จ จากการเข้าเรียนรู้ในที่ประชุม หรือว่าเรียนรู้จากอัพน์ไลน์ของคุณ สิ่งต่อไปที่คุณควรเรียนรู้ให้เข้าใจ และควรที่จะทำตามก็คือ “กฎจรรยาบรรณของนักธุรกิจแอมเวย์” กฎจรรยาบรรณนี้จะปกป้องคุณจากการทำธุรกิจแอมเวย์ที่ผิดวิธี แน่นอนครับ การทำธุรกิจที่ผิดวิธีจะไม่ทำให้คุณประสบความสำเร็จได้เลย ผมจึงได้บอกคุณว่า กฎจรรยาบรรณนั้นเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย
ในสมัยเป็นเด็กนักเรียนทุกครั้งที่ครูสอนจบในแต่ละวันครูจะมีการบ้านให้ทำเสมอ เหตุผลที่ครูทุกคนให้การบ้านเด็กๆ ก็เพื่อให้พวกเขาได้ฝึกแก้ปัญหา และเพิ่มประสบการณ์ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง เช่นเดียวกันกับในธุรกิจแอมเวย์ การเรียนรู้มากเพียงอย่างเดียวนั้นไม่พอ คุณจะต้องออกไปทำงานพื้นฐานด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ในการทำธุรกิจแอมเวย์ของคุณ


2 สิ่งที่คุณควรทำหลังจากการเรียนรู้ก็คือ ทดลองใช้สินค้ากับตัวเอง และเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้อื่น อัพน์ไลน์บอกผมเสมอว่าการลงทุนในธุรกิจแอมเวย์ที่ดีที่สุดคือการลงทุนกับตัวเอง ในหลายๆธุรกิจนั้นหากคุณต้องการประสบความสำเร็จคุณจะต้องมีเงินลงทุนที่มากพอ และในบางธุรกิจ ลงทุนไปแล้วแทบจะสูญปล่าวไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลยก็มี แต่ในธุรกิจแอมเวย์นั้น เราลงทุนเพียงเล็กน้อยโดยเริ่มจากลงทุนกับตัวเอง ไม่มีคำว่าลงทุนไปแล้วสูญปล่าวในธุรกิจแอมเวย์ เราลงทุนกับตัวเราเอง เราก็ได้ใช้สินค้าที่คุณภาพดีที่สุดในโลก แถมยังสามารถนำประสบการณ์ดีๆจากการใช้สินค้าของคุณไปบอกต่อผู้อื่นเพื่อทำเป็นธุรกิจได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่า “ในธุรกิจแอมเวย์คุณสามารถเปลี่ยนรายจ่ายในชีวิตประจำวันของคุณ มาเป็นรายได้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ” โดยเมื่อคุณทดลองใช้สินค้าได้ซักระยะหนึ่งแล้วคุณจะพบว่าสินค้าของแอมเวย์นั้นดีอย่างไร ตรงจุดนี้แหละครับที่เราจะสามารถนำสินค้าเหล่านั้นไปทำธุรกิจได้โดยยึดหลักการที่ว่า “ใช้ดีแล้วค่อยบอกต่อ” ผมเน้นย้ำนะครับว่าใช้จนเรารู้ว่าสินค้าดีจริงๆแล้วค่อยบอกต่อ เพราะคนใหม่หลายๆคนจะชอบไปบอกเค้าว่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ แต่ว่าตัวเองก็ยังไม่เคยลองใช้เลย ถามว่าแล้วจะบอกใครบ้าง บอกต่อคนที่เรารัก บอกต่อคนในครอบครัว บอกต่อเพื่อนๆ บอกต่อญาติ บอกต่อคนที่เรารู้จักหรืออาจจะเป็นใครก็ได้ที่พูดภาษาคนรู้เรื่อง คือคนไทยบางคนนี่พูดภาษาไทยรู้เรื่องแต่ว่าพูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นเราก็จะเลือกบอกต่อคนที่พูดภาษาคนรู้เรื่อง ด้วยการเปิดโอกาสทางธุรกิจที่ดีที่สุดนี้ให้กับทุกๆคน เมื่อคุณได้ทำตามที่ผมได้กล่าวไปทั้งหมดแล้ว สิ่งที่คุณจะเจอก็คือ ปัญหาครับ ปัญหาของการทำงานในธุรกิจแอมเวย์จะเกิดขึ้นมามากมายเลยล่ะครับถ้าคุณเรียนรู้น้อย แต่ถ้าคุณเรียนรู้ให้เยอะมากพอปัญหามันก็จะน้อยเอง ปัญหาส่วนใหญ่ที่นักธุรกิจแอมเวย์ทุกท่านจะต้องเจอก็คือ ข้อโต้แย้ง ความไม่เข้าใจในธุรกิจแอมเวย์ของผู้มุ่งหวัง พวกเขามักจะบอกกับคุณว่า “แอมเวย์เหรอ โห ของแพง คนทำเยอะแล้ว พูดไม่เก่ง ไม่มีเวลา ไม่รู้จะไปขายใคร ขายของไม่เป็น” คุณเชื่อมั้ยครับว่านี่เป็นคำตอบท็อปฮิตของผู้มุ่งหวังส่วนใหญ่ที่คุณจะต้องเจอแน่ๆเวลาที่คุณออกไปทำงานพื้นฐาน จริงๆแล้วนะครับ หลายคนที่เลิกแอมเวย์ไปนี่ไม่ใช่เพราะว่าเค้าไม่เก่งหรือทำแอมเวย์ไม่ได้นะครับ แต่เป็นเพราะว่าเค้าไม่มีข้อมูลที่จะไปตอบข้อโต้แย้งเล็กๆน้อยๆให้คนเข้าใจได้แค่นั้นเอง แต่วันนี้นะครับถ้าคุณเรียนรู้เยอะมากพอ คุณเชื่อในธุรกิจแอมเวย์มากพอ คุณจะพบว่าสิ่งที่ผู้มุ่งหวังพูดมาทั้งหมดนั้นมันไม่ใช่ปัญหาเลย สินค้าราคาสูงก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะแพงเสมอไปจริงมั้ยครับ คนทำแอมเวย์กันเยอะก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำกันทุกคนนะ มีตั้งแต่สมัครเกรงใจ สมัครใช้สินค้าราคาทุน สมัครขายเล่นๆแล้วเลิก บางคนก็สมัครให้มันหน่อย ไม่ทราบว่ามีใครสมัครให้มันหน่อยบ้างรึปล่าวครับ มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นนะครับ ที่สมัครแล้วทำจริงๆจังๆ บางคนบอกผมว่า เขาเป็นคนพูดไม่เก่ง แล้วคุณมีเพื่อนพูดเก่งไม่ครับ คุณพูดไม่เก่ง แอมเวย์ก็เปิดโอกาสให้คุณชวนคนพูดเก่งเข้ามาในองค์กรได้ คุณไม่รู้จะไปขายใคร เพราะคุณยังไม่ได้ขายกับตัวคุณเอง คุณไม่มีเวลา คุณก็สามารถชวนคนที่มีเวลาเยอะกว่าเข้ามาในองค์กรได้ คุณขายของไม่เป็น คุณก็สามารถชวนคนขายเก่งเข้ามาได้ แต่คุณต้องเชื่อก่อนนะครับ คุณต้องเชื่อในธุรกิจนี้และเชื่อว่าคุณทำได้ ถ้าคุณยังไม่แน่ใจ ก็ขอให้แกล้งเชื่อไปก่อนเถอะครับเดี๋ยวมันจะเหลือเชื่อเอง ลองถามตัวเองดูนะครับว่าถ้าเราอยากรู้ว่าเราทำได้หรือไม่ได้ ทำไงดีครับ ก็ลองทำดู คือถ้าลองทำนี่มันมี 2 อย่างคือสำเร็จกับไม่สำเร็จใช่มั้ยครับ แล้วถ้าไม่ลองล่ะก็ไม่สำเร็จแน่ๆแถมเสียโอกาสใช่มั้ย ถ้าสำเร็จชีวิตเปลี่ยนมั้ยครับ แล้วถ้าไม่สำเร็จขึ้นมาล่ะ ก็ไม่เห็นเป็นไรก็กลับมาจนใหม่ก็ยังทันนึกออกมั้ย แต่ถ้าเราทำสำเร็จนะครับ ไม่ใช่แค่ชีวิตคุณเปลี่ยน แต่คนรอบตัวคุณจะเปลี่ยนไปหมดเลย หรือถ้าคุณคิดว่าคุณทำไม่ได้อยู่ ผมขอถามคุณว่า ถ้าให้คุณหลับตาทำแอมเวย์คุณว่ายากมั้ยครับ “จ่าโทจรัญคงได้” อดีตนักรบนาวิกโยธินของกองทัพเรือ ออกไปรบชายแดนแล้วเหยียบกับระเบิดกลับมา ปัจจุบันพิการ 3 in 1 ตาบอด หูตึง แขนขาดหนึ่งข้าง แต่โชคยังดีที่เขามาเจอคนแอมเวย์ หลังฟังแอมเวย์เสร็จ น้าจรัญก็ลองทำดูทั้งๆที่ตาบอด หูตึง แขนขาด ในตอนนี้น้าจรัญประสบความสำเร็จในธุรกิจแอมเวย์ พาลูกเมียไปเที่ยวต่างประเทศมาหลายรอบแล้ว บางคนสงสัยว่าเป็นไปได้งัย แต่มันก็เป็นไปแล้วล่ะครับ ตาบอดรับเดือนหลายหมื่นแล้ว บางคนบอก “ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง” มีนักธุรกิจท่านหนึ่งประสบความสำเร็จทั้งๆที่เป็นใบ้พูดไม่ได้เลย หูหนวกด้วย แบบนี้แอมเวย์ต้องพูดเก่งมั้ยครับ ถามว่าถ้าคนเป็นใบ้หูหนวกทำได้ แบบนี้ทำแอมเวย์ไม่ต้องพูดเก่งแล้ว มาถึงตรงนี้บางคนบอกผมโง่ไป ผมไม่มีรถ “คุณอุทัย เชื้อคำเนีย” พิการเป็นโปลิโอตั้งแต่กำเนิด ไม่รู้หนังสือซักตัว อ่านไม่ออก เขียนก็ไม่ได้ ปัจจุบันคุณอุทัยทำแอมเวย์สำเร็จในระดับมรกต คุณอุทัยไม่มีรถ เดินก็ไม่ได้ “ต้องโยกรถเข็นทำแอมเวย์” แต่เขาก็พยายามจนสำเร็จในธุรกิจแอมเวย์ได้ ทีนี้ผมขอถามคุณว่าถ้าคนเหล่านี้ทำได้ คุณว่าคุณทำได้มั้ยครับ คุณมีครบทุกอย่าง คุณไม่ได้พิการเลย คุณบอกว่าคุณจนไม่มีเงินทุน หากคุณลองมองคนพิการเหล่านั้นดู คุณจะพบว่าคุณร่ำรวยกว่าพวกเขามากมายนัก ในวันนี้ถ้ามีคนมาขอตัดขาคุณไปสักข้างหนึ่ง แล้วบอกว่าให้คุณสิบล้าน คุณเอามั้ยครับ ขาข้างหนึ่งของคุณยังมีค่ามากกว่าสิบล้านเลย เงินทุนในธุรกิจแอมเวย์ก็คือความฝันของคุณ ขอเพียงคุณมีความฝันที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต คุณก็ทำแอมเวย์ได้ครับ
แอมเวย์เป็นธุรกิจที่เปิดโอกาสให้คนทุกชนชาติ ทุกอาชีพ ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ คนยากจน คนรวย เด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา คนพิการ สีผิว ผู้ชาย ผู้หญิง เมื่อเข้ามาทำธุรกิจแอมเวย์แล้วทุกคนจะเท่าเทียมกัน ทุกคนมีสิทธิ์ในการทำธุรกิจแอมเวย์อย่างเท่าเทียมกัน ผลตอบแทนในทุกระดับความสำเร็จนั้นทุกคนมีสิทธิได้รับเท่ากัน และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่สามารถตอบคำถามได้ว่า “ทำไมคนทั่วโลกถึงทำธุรกิจแอมเวย์


Step 3 มาถึงจุดนี้แล้วหลายท่านอาจสงสัยว่า “ทำแอมเวย์ เขาทำกันยังไงถึงสำเร็จ” ผมขอตอบคำถามตรงนี้ว่า ไม่ยากเลยครับ ขอให้คุณเพียงแค่ทำในสิ่งที่คนสำเร็จเขาทำกันพวกเขาเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า “งานพื้นฐาน” ในธุรกิจแอมเวย์มีงานพื้นฐานอยู่เพียงไม่กี่อย่างด้วยกัน ผมเรียกงานเหล่านี้ว่า 3 S 1 M (สามเอสหนึ่งเอ็ม) แต่ก่อนจะอธิบายผมขอถามคุณก่อนว่า คุณอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจแอมเวย์ใช่รึปล่าวถ้าคุณอยากสำเร็จจริงๆ สิ่งที่ผมกำลังจะพูดถึงต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเป็นนักธุรกิจแอมเวย์ระดับมงกุฎฑูตได้ขอให้ตั้งใจฟังดีๆนะครับ ในงานพื้นฐานสามเอสหนึ่งเอ็มนั้นเอสตัวแรกคือ Selling (เซลลิ่ง) ซึ่งก็คือการขายนั่นเอง คุณเชื่อมั้ยครับว่า การทำงานทุกๆอย่างบนโลกนี้คือการขายทั้งนั้น ผมยกตัวอย่างง่ายๆเช่น หากว่าคุณกำลังทำงานซักชิ้นนึงที่ต้องใช้ความคิดมากๆ หรือใช้ความคิดสร้างสรรค์ ก็เท่ากับว่าคุณขายความคิดของคุณ หรือถ้าคุณเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงคนหนึ่ง คุณไปสมัครงานที่ไหนก็คงจะมีแต่คนเข้าทำงานด้วยเพราะอะไรหรือครับ เพราะประสบการณ์ของคุณมีค่ามากมายสำหรับเขา เขาจึงยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อประสบการณ์ของคุณ นั่นก็เท่ากับว่าคุณขายประสบการณ์ของคุณแล้วล่ะครับ ในการทำแอมเวย์ก็มีการขายเช่นเดียวกัน แต่มีการขายสินค้าที่มีคุณภาพดีที่สุดให้กับคนที่คุณรักให้กับเพื่อนๆที่คุณรัก ครอบครัวคุณ คนรู้จัก ญาติ และตัวคุณเอง ที่สำคัญที่สุดสำหรับการขายก็คือ “คุณจะต้องขายสินค้าคุณภาพเหล่านี้ให้กับตัวคุณเองก่อนนะครับ”
เอสตัวที่สองคือ Sponsoring หรือการแนะนำโอกาสทางธุรกิจที่ดีที่สุดนี้ให้กับผู้คน คุณทราบใช่มั้ยครับว่า โลกของเราเต็มไปด้วยผู้คนที่สิ้นหวัง ท้อแท้ และมองไม่เห็นถึงศักยภาพของตนเอง พวกเขามองไม่เห็นถึงความรัก และปิดกั้นตัวเองจากความรัก มีหมอท่านหนึ่งเป็นคนที่เก่งมากท่านสามารถผ่าตัดดวงตาของคนตาบอดให้สามารถกลับมามองเห็นอีกครั้งได้ คุณกับผมก็เหมือนกัน พวกเรามีความสามารถแบบนั้นไม่ใช่หรือครับ พวกเรามีศักยภาพมากพอที่จะช่วยให้ผู้คนเหล่านั้นมองเห็นศักยภาพของตัวเขาเองช่วยเขาให้ออกมาจากการจมอยู่กับความสิ้นหวัง ท้อแท้ และไม่รู้จักตัวเองนั้นให้ได้ ตรงจุดนี้ผมกำลังพยายามบอกกับคุณว่า ในการชวนคนเข้ามาทำธุรกิจนี้ ขอให้ชวนอย่างจริงใจและพร้อมที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เขาจากใจจริง อธิบายให้เขาเห็นถึง ความสวยงามและศักยภาพของธุรกิจแอมเวย์ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าหากว่าคุณชวนเขามาทำธุรกิจนี้ด้วยการบังคับให้เขาสมัครหรือขอร้องให้เขาสมัครให้คุณ คุณจะพบว่าธุรกิจของคุณจะอยู่ได้ไม่นานหรอกครับ หรืออาจจะคนเยอะแต่ไม่มียอดธุรกิจเลย
สำหรับเอสที่สามคือ Service หรือการบริการ คุณเคยได้ยินคำว่าการบริการหลังการขายไหมครับถ้าคุณเดินเข้าไปซื้อเครื่องปรับอากาศซักเครื่องหนึ่งในร้านขายเครื่องปรับอากาศ หลังการขายเสร็จสิ้น คุณจะถามพนักงานขายถึงการบริการหลังการขายใช่มั้ยครับ พนักงานขายคนนั้นก็คงจะบอกกับคุณว่าเขาจะนำเครื่องปรับอากาศนี้ไปติดตั้งให้ที่บ้านคุณ และถ้าคุณมีปัญหาขัดข้องอะไรก็ให้โทรเรียกเขาได้เสมอ แต่ในธุรกิจแอมเวย์นั้น คุณเป็นเจ้าของกิจการของคุณเอง เจ้าของกิจการจะไม่ทำการขายหรือการบริการแบบพนักงานขายแต่เขาจะทำมากกว่านั้น นอกจากคุณกำลังคิดว่า ตัวคุณเองเป็นพนักงานขาย อย่ามีความคิดแบบนั้นเลยนะครับ ขอให้คุณมีความคิดแบบเจ้าของกิจการ เจ้าของกิจการที่ดีจะไม่ทำเพียงแค่การบริการลูกค้าของเขา แต่เขาจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ดีมีประโยชน์และลูกค้าของเขาจำเป็นต้องใช้มัน ให้กับลูกค้าของเขาอีกด้วย และในบริษัทแอมเวย์ก็มีสินค้าที่ว่านั่นอยู่มากมายให้คุณเลือกไปนำเสนอลูกค้าของคุณตามความพอใจคุณ
สุดท้ายของการทำงานพื้นฐานคือ Meeting หรือการเข้าประชุม ในส่วนนี้ผมคงจะไม่อธิบายอะไรมาก เพราะผมได้พูดไปแล้วในช่วงแรกๆว่าการเข้าประชุมนั้นสำคัญอย่างไร เอาเป็นว่าผมจะพูดถึงการเตรียมตัวเข้าประชุมก็แล้วกัน ผมจะบอกคุณถึงหลักการเตรียมตัวเข้าประชุมที่จะทำให้คุณได้ประโยชน์จากที่ประชุมมากที่สุด คุณเคยเป็นเด็กนักเรียนมาก่อนใช่มั้ยครับ? ตรงนี้ผมจะบอกคุณว่า “การเรียนในห้องเรียนต้องทำอย่างไร การเข้าประชุมก็ขอให้ทำอย่างนั้นครับ” อย่างแรกเลยก็คือ พาตัวคุณเองไปประชุมอย่างต่อเนื่องให้ได้ อย่าขาดการประชุม อย่าขาดการเรียนรู้ อย่าขาดบรรยากาศในที่ประชุม อย่างที่สองคุณควรมีสมุดโน๊ตและปากกา หรือดินสอ ติดตัวเอาไว้ด้วย เผื่อเอาไว้สำหรับจดแนวคิดหรือคำพูดสำคัญของนักธุรกิจที่ขึ้นไปพูดให้ความรู้บนเวทีในที่ประชุมที่โดนใจคุณ จริงๆแล้วนะครับผมอยากจะบอกคุณว่า คุณไม่จำเป็นต้องจดก็ได้ถ้าคุณไม่ชอบการจด เพราะผมเองก็ไม่ชอบเช่นกัน เวลาที่ผมขี้เกียจจดผมก็มักจะพูดกับตัวเองว่า “จำไว้ดีกว่าจด แต่ถ้าจำไม่หมดก็ต้องจดไว้จำ” เพราะฉะนั้นแล้ว ในบางครั้งหากเรากลัวจะจำไม่ได้จริงๆก็จดไว้ด้วยจะดีกว่านะครับ อย่างที่สาม เวลาจัดประชุมที่เซนเตอร์ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง คุณควรไปก่อนเวลาซักสิบห้านาที เพื่อที่จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด และแนวคิดดีๆกับนักธุรกิจท่านอื่นๆก่อนเริ่มการประชุม ในช่วงนี้เองที่คุณจะมีเพื่อนมากมายจากการทำธุรกิจแอมเวย์ ทุกๆคนเป็นเพื่อนที่มีความจริงใจ และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในทุกๆเรื่องจากใจจริง อย่างที่สี่ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการเข้าประชุม และในระหว่างการประชุม คุณควรปิดเสียงโทรศัพท์ และไม่คุยโทรศัพท์หรือคุยกับเพื่อนนักธุรกิจของคุณในที่ประชุม เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนนักธุรกิจท่านอื่นที่กำลังตั้งใจฟังการประชุม อย่างที่ห้า หากคุณชวนเพื่อนคุณไปแล้วเขาไม่ไป หรือเขาอาจจะบอกว่าจะไปแน่ๆ แต่แล้วเขาก็ไม่ไป เขาผิดนัดคุณ ก็ขอให้คุณไม่ต้องรอเขาและกลับเข้าห้องประชุมเหมือนเดิม ถึงชวนเขาแล้วเขาไม่ไปและคุณต้องไปคนเดียว ก็ขอให้คุณไปประชุมอย่างต่อเนื่อง จำไว้นะครับว่าหน้าที่หลักของเราคือไปเรียน หน้าที่รองของเราคือชวนคนอื่นไปเรียนด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าเขาจะไปหรือไม่ไปเราก็ต้องไปเรียนอยู่แล้ว หากไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่ควรขาดบรรยากาศในที่ประชุมนะครับ อย่างที่หก ถ้าอัพน์ไลน์ของคุณชวนคุณไปงานประชุม งานแคมป์ งานกระชับมิตร หรืองานสำคัญต่างๆ คุณควรรีบตอบตกลงไปงานนั้นกับอัพน์ไลน์ของคุณ เพราะนั่นคือโอกาสที่อาจทำให้คุณประสบความสำเร็จได้รวดเร็วขึ้น และขอให้คุณถามอัพน์ไลน์ของคุณด้วยว่า “ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง”
สรุปในเรื่องของการประชุมนะครับ งานหลักในการประชุมก็คือ “พาตัวคุณเองไปเข้าเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ” ส่วนงานรองในการเข้าประชุมก็คือ “พาเพื่อนๆและคนที่คุณรักไปเข้าประชุมกับคุณ” สำหรับนักธุรกิจแอมเวย์ทุกๆท่านนั้น นอกจากการทำงานพื้นฐานแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านจะต้องรู้และเข้าใจแนวคิดพื้นฐานที่ถูกต้องในการทำธุรกิจ ซึ่งผมจะได้กล่าวในหัวข้อ “แนวคิดพื้นฐานที่ถูกต้อง” ซึ่งเป็นหัวข้อที่สำคัญมากต่อการดำเนินธุรกิจแอมเวย์ของทุกๆท่านเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น